หลังจากได้ใช้ความพยายามหลายปี ที่สุดเหลียงเฉาเหว่ยก็ได้รับเกียรติครองรางวัลราชาจอเงิน นอกจากจะรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเขายังตระหนักดีว่าบนเส้นทางไปสู่ดวงดาวนี้ความจริงเขาโชคดีกว่าคนอีกมาก
เหลียง:"ผมรู้จักอุปนิสัยและกิริยาท่าทางของตนที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นดี ความจริงอุปนิสัยและการแสดงออกของผมแบบนี้ไม่เหมาะที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าผมต้องเลือกประกอบอาชีพหนึ่งอย่างจากเจ็ดสิบสองอาชีพเพื่อเลี้ยงปากท้อง"
เหลียง:"แน่นอนนอกจากจะเป็นจิตรกร ผมก็ยังสามารถทำงานอาชีพในวงการบันเทิงมาได้ระยะเวลาหนึ่ง แน่นอนว่าต้องยกให้เป็นความดีความชอบของความโชคดีด้วย แต่ผมก็ได้พยายามมามากและยอมสูญเสียเพื่อการงานมามากทุกอย่างเป็นผลจากความโชคดีและความมุมานะพยายามทั้งสิ้น"
เหลียงเฉาเหว่ย ทุกวันนี้หวังว่าจะยึดการแสดงเป็นงานอาชีพชั่วนิรันดร์
เหลียง:"ศิลปินที่เข้าสู่วงการในเวลาไล่เลี่ยกับผมก็เหมือนผมคือชอบการแสดงหนัง หลังจากถ่ายหนังได้ระยะเวลาหนึ่ง ชื่อเสียงและเงินทองจะหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ทว่าถึงอย่างไรผมชอบถ่ายหนังมากกว่าเงินทอง"
สำหรับการเป็นนักร้องและออกอัลบั้มเพลง เหลียงเฉาเหว่ยบอกว่า เขาไม่ใช่นักร้องอาชีพที่ขายเสียง ดังนั้นความรู้สึกและความเข้าใจที่ได้จากแฟนๆ จะเป็นจุดขายของเพลงของเขา
เหลียง:"ผมจะไม่วางแผนออกอัลบั้มเพลง และบีบคั้นตนเองให้ปีหนึ่งออกอัลบั้มหลายชุด ดังนั้นอัลบั้มชุดก่อนของผมจะทิ้งเวลาห่างจากอัลบั้มชุดนี้นานโข"
เหลียง:"ผมเพียงร้องเพลงที่ผมอยากร้อง และสอดใส่ประสบการณ์ และความรู้สึกของตนที่ผ่านๆมาลงไปในเสียงเพลง เป็นต้นว่าใช้เพลงบรรยายความรู้สึกที่มีต่อการทะเลาะกันของพ่อกับแม่และความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนตลอดจนนิยายรักที่เกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาวของตน"
เหลียง:"ผมเชื่อว่าประสบการณ์เหล่านี้ไม่ใช่ผมผู้เดียวที่เคยประสบและสัมผัสมา ด้วยเหตุนี้ผมจึงหวังว่านิทานของผมจะกระตุ้นให้แฟนเพลงคิดถึงสิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตของตน"
ทุกวันนี้เวลาว่างๆ เหลียงเฉาเหว่ยจะคิดว่า ถ้าเขายังรุ่นหนุ่มวัย 15-20 ปีและครอบครัวมีฐานะดี เวลานี้เขาอาจยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เพราะนับวันเขาจะรู้สึกว่าสิ่งที่มีค่าคุ้มกับการเสียเวลาเรียนรู้ในโลกนี้มีมากมายเหลือเกิน
เหลียง:"ผมหัดวาดภาพสีน้ำมัน เพราะสีเข้มจัดๆจะฝึกความรู้สึกของผมที่มีต่อสี ผมเรียนดนตรีคลาสสิค เพราะบรรยากาศของเพลงคลาสสิคกว้างกว่าเพลงประเภทอื่นๆ ซึ่งจะกระตุ้นความคิด และพลังสร้างสรรค์ของผม บางครั้งผมหยิบหนังสือที่ผลิตในแผ่นดินใหญ่เล่มหนึ่งมาอ่าน พออ่านจบจะมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งต่อประเทศนี้ แม้แต่การหัดดื่มชา ก็มีเหตุผลมากมายที่จะให้คุณเรียนรู้"
เฃาบอกว่า ตนสนใจทุกสิ่งที่มาสัมผัสตา หู จมูก ปาก
"คุณคิดว่าในเวลาปีหนึ่งจะเจียดเวลาสักครั้งหนึ่งมาศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆหรือไม่?"
เหลียง:"ผมเคยคิดเช่นนั้น แต่พอรับถ่ายภาพยนตร์ ผมจะควบคุมเวลาทำงานของผมไม่ได้ จึงต้องพยายามเจียดเวลาให้ได้มากที่สุด"
ที่มา: ทีวีวีดีโอไทมส์
