บทสัมภาษณ์ของโทนี่ เหลียงเฉาเหว่ยพูดถึงเรื่องความรักในปี2005
นักข่าว: ได้ข่าวว่าระหว่างการถ่ายทำหนังอยู่คุณได้ส่งของขวัญวันเกิดแบบพิเศษไปให้กับหลิวเจียหลิงด้วย
ขอถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกคุณหน่อยได้ไหม
เหลียง: (หัวเราะ) รู้สึกว่าพวกคุณจะสนใจพวกเราจัง ผมกับหลิวเจียหลิงต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ
กับพวกเรา ตอนนี้ความรักของพวกเรามั่นคงดี เจียหลิงเขามีนิสัยเปิดเผย ชอบครึกครื้น ชอบเที่ยว เธอชอบอยู่กับ
เพื่อนกลุ่มใหญ่ บางทีทำเอาที่บ้านกลายเป็นเหมือนสโมสรทีเดียว ส่วนผมค่อนข้างเก็บตัวรักสงบถ้าไม่ได้ถ่ายหนังผมจะไม่ชอบอยู่ในที่ๆคนมากมาย เคยมีคนทายว่าพวกเราจะคบกันได้ไม่นาน แต่ผมกลับรู้สึกว่าที่พวกเราเป็นอย่างนี้หน่ะดีแล้ว ต่างคนต่างเติมเต็มส่วนที่แต่ละคนขาดไป (หัวเราะ)
นักข่าว: คุณคิดถึงอนาคตของพวกคุณไว้อย่างไรบ้าง
เหลียง: พวกเราอยู่ในวงการ ต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเอง บางทีก็มีบ้างความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่หลังจากที่ฝ่าฟันร่วมกันมาหลายปี จนมาถึงวันนี้ผมถือว่ามันเป็นบุพเพสันนิวาส พวกเราถนอมความรู้สึกนี้ การที่พวกเราเป็นคนในวงการทั้งคู่ บางทีก็มีทะเลาะกันแล้วพวกคุณก็เอาไปลงเป็นข่าว แต่มันก็ไม่มีอะไร พวกเรายังคงรักกันดี
ที่จริงเมื่อลองย้อนกลับไปดู ไม่ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ก็ตาม สำหรับพวกเราแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าจดจำเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นทำให้พวกเราเข้าใจกันอย่างทุกวันนี้ ตอนนี้พวกเราไม่เพียงเข้าใจกัน
แต่พวกเราเป็นเหมือนคนคนเดียวกัน มันเป็นความรู้สึกที่เกินกว่าความหวาดระแวง ความหึงหวง เป็นคนในครอบครัว ดังนั้นผมคิดว่าเธอเป็นคนที่ผมรักที่สุด (หัวเราะ)
เมื่อก่อนเคยมีคนบอกผมว่า ถ้าคู่รักอยู่ด้วยกันนานเข้าจะรู้สึกเหมือนเป็นแขนขวาพันแขนซ้าย ไม่มีความรู้สึก
น่าเบื่อ แต่ผมกลับคิดว่า คนเรามีโอกาสเลือกได้มาก ในโลกนี้มีของให้เลือกมากมาย แต่ของที่เหมาะสมกับตัวเองจริงๆ นั้นมีน้อย ฉะนั้นผมกับเจียหลิงสามารถอยู่ด้วยกันได้ ผมถือว่าเป็นความภูมิใจอย่างสูง
ที่มา:MingXing ปี2005
บทสัมภาษณ์ของเหลียงเฉาเหว่ยและหลิวเจียหลิงพูดถึงความรักของพวกเขาในปี 2000
การงานกับความรัก เหลียงเฉาเหว่ยวางลำดับอย่างไร เขาตอบอย่างสบายใจว่า
สำหรับผมแล้วการงานและความรักไม่ได้แยกก่อนหลัง สำคัญเท่ากันต้องดูว่าคุณจะสร้างความสมดุล
ยังไงงานและเรื่องส่วนตัวต้องแยกให้ชัดเจน หากผู้ชายคนหนึ่งต่อให้มีการงานดียังไง แต่ล้มเหลวกับความรักแล้ว
จะมีความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร
หลายปีมานี้ เหลียงเฉาเหว่ยรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก เขารู้จักรักคนอื่นเป็นห่วงคนอื่น อีกทั้งยัง
เชื่อใจและเห็นใจคนรอบข้างอย่างมาก ความสัมพันธ์ของเขากับหลิวเจียหลิงนับวันยิ่งเข้ากันได้ดี
ตลอดเวลาที่คบกัน เหลียงเฉาเหว่ยรู้สึกว่าไม่มีเวลาให้เธอมากพอ สาเหตุเป็นเพราะพวกเขามีงานยุ่งมาก
เขาหวังว่าหลิวเจียหลิงจะเข้าใจสิบกว่าปีที่คบกันเขายอมรับว่าความรักไม่เร่าร้อนเหมือนตอนที่คบกันช่วง
สองเดือนแรก มุมมองของเหลียงเฉาเหว่ยต่อความรักคือ
ความรักโดยทั่วไปเป็นอย่างนี้แหละทั้งสองฝ่ายต้องรักษาความสัมพันธ์ เวลายิ่งนานความสัมพันธ์ยิ่ง
เหมือนคนในครอบครัวอยู่ด้วยกันยิ่งมีความสุข
เหลียงเฉาหว่ยยังกล่าวอีกว่า ตอนที่ผมเริ่มคบกับหลิวเจียหลิงก็รู้แล้วว่าเธอชอบเที่ยวเป็นกลุ่ม
อีกอย่างผมชอบความร่าเริงของเธอ มันสามารถปลดปล่อยออกมาจากใจ ผมไม่เหมือนกับเธอ
ผมปลดปล่อยอย่างเธอไม่เป็น ดังนั้นผมจึงชอบเล่นหนังพวกเราคนหนึ่งนิ่งคนหนึ่งไหวกาย
เป็นเรื่องดี เพราะคนอย่างผมต้องการที่ว่างเยอะมากผมมีความสุขกับการอยู่คนเดียว
หลิวเจียหลิงไม่ปฏิเสธว่าตั้งแต่เริ่มต้นที่คบกับเหลียงเฉาเหว่ย เธอศรัทธาและชื่นชมเขามาก
แม้ว่าบางครั้งฉันจะถูกปรักปรำ ฉันก็ทนมาตลอด อีกอย่างฉันเป็นคนขี้หงุดหงิด เขาก็ต้องทนฉัน
ฉันเชื่อว่าพื้นฐานแล้วพวกเราต่างชื่นชมและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเข้าใจความพยายาม
ของเขาในด้านการแสดงมากเท่าฉัน ฉันเห็นเขาเรียนภาษาอังกฤษเอง ปกติเขาอ่านหนังสือวรรณคดี
เยอะมาก ดูหนังหลายเรื่อง และทุกครั้งที่เล่นหนัง เขาทุ่มเทมาก ไม่เคยเกียจคร้าน ภายนอกไม่มีใครรู้
หรอก หากวันไหนเขาแสดงฉากหนึ่งแล้วรู้สึกไม่พอใจ กลับมาบ้านบรรยากาศในบ้านจะเปลี่ยนไป
ตามอารมณ์ของเขา ต้องรอให้อารมณ์ของเขาสงบลงฉันจึงกล้าพูดคุยกับเขา
เรื่องใหญ่น้อยภายในบ้าน หลิวเจียหลิงเหมือนเป็นภรรยาที่ดี จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ที่บ้านต้องใช้
เงินเท่าไหร่ ค่าน้ำค่าไฟเท่าไหร่ คนใช้เงินเดือนเท่าไหร่ เหลียงเฉาเหว่ยไม่ต้องดูแลเลย ฉันไม่เคย
รบกวนเขาเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ เนื่องจากฉันไม่ต้องการเห็นเขากังวลใจ อยากเห็นเขาตั้งใจเล่นหนัง
อย่างเดียว
นิสัยของเหลียงเฉาเหว่ยมีเพียงหลิวเจียหลิงที่รับมืออยู่ ฉันเหมาะกับเขาที่สุด เขาชอบอยู่คนเดียว
ไม่ชอบให้เพื่อนหญิงตามเขาแจตลอด 24 ชม. ส่วนฉันชอบความครึกครื้น ชอบเที่ยวกับเพื่อน เขาไม่
ชอบร่วมวงด้วย แต่จะทำงานของตัวเองอย่างเงียบๆ เขาเหมือนเด็ก ชอบต่อโมเดลเรือบิน ปืนใหญ่ เรือ
เขาต่อได้ทั้งคืน บางครั้งฉันเรียกเขาเข้านอนแต่พอตกดึกเขาจะลุกจากเตียงมาต่อโมเดล ฉะนั้นที่บ้าน
มีโมเดลเยอะมากนับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ เหลียงเฉาเหว่ยในสายตาของหลิวเจียหลิง เป็นผู้ชายที่สปอร์ตมาก หากเขามีเงินสิบ
เหรียญ เขาสามารถให้ฉันหรือคุณแม่ของเขาหมด เขาเชื่อใจฉันมาก ขอเพียงเขาอารมณ์ดี เขามักจะซื้อ
เพชรพลอยมาให้ฉัน
ตั้งแต่คบกับหลิวเจียหลิง เหลียงเฉาเหว่ยไม่ได้กลัดกลุ้มมากไปกว่าเมื่อก่อน ฉันรู้สึกว่าเขากระตือ
รือร้นมาก เต็มไปด้วยพลัง เมื่อก่อนดูเขาเศร้าๆ เดี๋ยวนี้เขามีความสุขมาก ส่วนฉันเป็นคนเอะอะโวยวาย
เวลามีเรื่องไม่สบายใจถ้าทะเลาะกันเขาจะนิ่งเงียบ ผ่านไป 1-2 วัน เมื่ออารมณ์สงบลงแล้ว เขาจึงจะพูดจา
เคลียร์กัน ถ้าหากเขาเป็นฝ่ายผิด เขาจะกล่าวคำขอโทษ
ช่วงเวลาที่ทั้งคู่คบกัน พวกเขาเผชิญกับสิ่งต่างๆมากมาย รวมทั้งการงานที่ตกต่ำ ชีวิตที่ขึ้นลง เจียหลิง
กล่าวว่า พวกเราไม่ควรแยกทางกัน นี่เป็นเป้าหมายร่วมกันของฉันกับอาเหว่ย เนื่องจากห้วงเวลาที่คบกัน
เกิดเหตุการณ์หลายอย่างเผชิญอุปสรรคมามากมาย แต่พวกเราก็สามารถเอาชนะจนเดินมาถึงจุดนี้ได้
ดังนั้นพวกเราจึงเชื่อมั่นกันและกัน ไม่คิดมีปากเสียงหรือมีอารมณ์เพราะข่าวลือ ความจริงแล้วฉันคบกับ
เพื่อนคนไหนฉันจะเล่าให้อาเหว่ยฟัง ฉันไปไหนเขาจะรู้ดี ระหว่างพวกเราไม่มีเรื่องปิดบัง มีเพียงพวกเรา
ที่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร ฉะนั้นข่าวลือไม่สามารถสร้างผลกระทบกับพวกเราได้
ที่มา:GOLD STAR ปี2000
