บทสัมภาษณ์โทนี่ เหลียงเฉาเหว่ย ปี 2000 ตอนที่ 2
18 ปีแล้ว เหลียงเฉาเหว่ยมองว่าตัวเองค่อนข้างโชคดี วงการภาพยนตร์มีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด แต่เขาไม่ได้รับผลกระทบ ไม่เคยไม่มีหนังเล่น แม้แต่อยู่ในช่วงซบเซา เขายังมีผลงานออกมา ผมไม่เคยหนักเรื่องไม่มีหนังเล่น กลับกันผมพอใจกับผลงานของตัวเองหรือเปล่า นี่สิทำให้ผมหนักใจมากกว่า ถ้าหากเข้าวงการเพียงเพื่ออยากให้คนอื่นรู้จักมากขึ้นหรือเพื่อชื่อเสียง ผมจะไม่ปวดหัวกับเรื่องนี้เลย แต่นี่ผมชอบงานด้านนี้และมาถึงตรงนี้ผมรู้จักผ่อนคลายตัวเองแล้วเวลาพักผ่อนก็จะไปว่ายน้ำกับเพื่อนอ่านหนังสือนัดเพื่อนทำบาบีคิว เล่นปิงปอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนอกวงการ 3 เดือน จากนั้นค่อยกลับมามุ่งมั่นใหม่ เขายังมีผลงานออกมา ผมไม่เคยหนักเรื่องไม่มีหนังเล่น กลับกันผมพอใจกับผลงานของตัวเองหรือเปล่า นี่สิทำให้ผมหนักใจมากกว่า ถ้าหากเข้าวงการเพียงเพื่ออยากให้คนอื่นรู้จักมากขึ้นหรือเพื่อชื่อเสียง ผมจะไม่ปวดหัวกับเรื่องนี้เลย แต่นี่ผมชอบงานด้านนี้และมาถึงตรงนี้ผมรู้จักผ่อน
คลายตัวเองแล้วเวลาพักผ่อนก็จะไปว่ายน้ำกับเพื่อนอ่านหนังสือนัดเพื่อนทำบาบีคิว เล่นปิงปอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนอกวงการ 3 เดือน จากนั้นค่อยกลับมามุ่งมั่นใหม่
4 ปีก่อนเขาแพ้การประกวดที่เมืองคานส์ไปแค่คะแนนเดียว ชวดรางวัลตุ๊กตาทอง ตอนนั้นเหลียงเฉาเหว่ยเสียใจมาก แต่ยังกระตุ้นตัวเอง คนเราไม่ได้โชคดีกันได้บ่อยๆที่สำคัญคือเวลาแสดงต้องรักษามาตรฐานและคุณภาพของตัวเอง เมื่อโชคมาถึงจึงจะมีโอกาสคว้ารางวัล ด้วยความคิดอย่างนี้ เหลียงเฉาเหว่ยไม่เคยเกียจคร้าน เมื่อเขาได้เจอกับ หวังเจียเหว่ย อีกครั้งเหมือนกับเขาได้เจอขุมทรัพย์ เขากับหวังเจียเหว่ย เจอกันครั้งแรกเมื่อแปดปีก่อน นักแสดงหลายคนที่เคยร่วมงานกับหวังเจียเหว่ย ต่างบ่นอุบกับท่าทีการเปลี่ยนบทบ่อยๆหรือถ่ายแล้วถ่ายอีกของเขา แต่ไม่เคยได้ยิน เหลียงเฉาเหว่ยบ่นสักคำ ผมไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิเขา ผมรู้มาตั้งนานแล้วว่า หนังของเขาค่อนข้างลำบาก เหมือนกับดื่มนมกล้วยหอมที่คาดเอาไว้แล้วว่าข้างในต้องมีกล้วยหอม ถ้ารู้ว่าจะมีปัญหาก็ไม่ควรร่วมงานจะได้ไม่ต้องบ่นแต่ผมชอบเล่นหนังอย่างนี้เพราะไม่ง่ายเลยที่มีคนเอาฟิล์มมาถ่ายผมเล่นมากมายอย่างนี้ คุณรู้มั้ย In The Mood For Love ใช้ฟิล์มทั้งหมดสี่แสนฟุต มีผู้กำกับกี่คนสามารถรับภาระฟิล์มสี่แสนฟุตให้นักแสดงมีอิสระแสดงได้เต็มที่ อีกทั้งเลือกเอาฟิล์ม แค่หนึ่งหมื่นฟุตจากสี่แสนฟุต ไม่มีอะไรเสียหาย
เพื่อทำตามความต้องการของหวังเจียเหว่ย เหลียงเฉาเหว่ย เคยทานบะหมี่ทีละหลายชาม เขาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า คุณก็รู้บนบะหมี่จะมีน้ำมันหมู แล้วบทสนทนาสามหน้ากระดาษเต็มๆ ถ่ายเสร็จบะหมี่หมดพอดี แต่ผู้กำกับตั้งสเปคสูงมาก ถ่ายไม่หยุด ผมเองก็กินไม่หยุด ทว่าผมเตรียมตัวมาดี รู้ว่าเวลาถ่ายฉากกินอาหาร ผมจะไม่ทานอะไรมาเลยแต่ทานบะหมี่หลายชามอย่างนี้ มันก็ไม่ไหว สุดท้ายผมบอกหวังเจียเหว่ยว่าอยากจะอ้วก ถึงแม้ทานบะหมี่จนอ้วก แต่เหลียงเฉาเหว่ยกลับชื่นชมความเด็ดขาดของเขา เด็ดขาดจึงจะดี ถ้าบอกว่าหยวนก็ตายเลย ถ้าจะทำก็คือทำถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ การเด็ดขาดจึงจะได้สิ่งดีๆให้คนอื่นดู
ที่มา:Goldstar ปี 2000
